สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า จากตัวเลขการผลิตที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งปัจจัยที่กระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในปี 2567
ส.อ.ท.จึงได้ปรับเป้าตัวเลขการผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศลดลงจากเดิม โดยคงตัวเลขผลิตเพื่อส่งออกไว้ที่ 1,150,000 ล้านคัน แต่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ เดิม 750,000 คัน ปรับลดเป้าในปี 2567 เหลือ 550,000 คัน ดังนั้น เป้าหมายรวมจะลดลงจากเดิมที่ตั้งไว้ 1.9 ล้านคัน เหลือเพียง 1.7 ล้านคัน โดยปัจจัยลบของการปรับยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง เช่น หนี้ครัวเรือนสูงถึงร้อยละ 90 ของ GDP ประเทศในขณะที่รายได้ครัวเรือนยังต่ำจากเศรษฐกิจที่เติบโตต่ำ คนงานมีรายได้ลดลง ประชาชนระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์โดยเฉพาะรถกระบะ และจำนวนแรงงานวัยทำงานน้อยกว่าเพื่อนบ้านจากอัตราการเกิดต่ำ เป็นต้น สำหรับปัจจัยบวก อาทิงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 เบิกจ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ซึ่งจะทำให้รัฐบาลใช้จ่ายและลงทุนรวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตามนโยบาย นักท่องเที่ยวต่างชาติและการส่งออกยังเติบโต คนงานมีรายได้มากขึ้น ความขัดแย้งระหว่างประเทศไม่ขยายตัวหรือเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลถึงการขาดแคลนชิปและชิ้นส่วน ธนาคารกลางสหรัฐอาจลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทยลดอัตราดอกเบี้ยได้ และเริ่มผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชดเชยอัตรา 1:1ของรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามาจำหน่ายในปี 2565 – 2566
ที่มา: https://www.autospinn.com/2024/07/fti-of-june-2024-137985 วันที่ 10 สิงหาคม 2567