กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เปิดเผยตัวเลขการผลิตรถยนต์ การขายรถใหม่ และยอดส่งออกของไทย ตั้งแต่เดือนมกราคม -พฤษภาคม 2567 จำนวนรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 644,951 คัน
ลดลง 16.88 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่ตัวเลขการผลิตในเดือนพฤษภาคม 2567 มีทั้งสิ้น 126,161 คัน ลดลง 16.19 % ปัจจัยที่ลดลง เป็นผลมาจากการผลิตรถกระบะขายในประเทศ ที่ลดลง 54.66 % และการผลิตรถยนต์นั่งขายในประเทศลดลง 14.35 % เนื่องจากเศรษฐกิจในประเทศที่เติบโตในอัตราต่ำและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่พร้อม สำหรับยอดขายจำนวน 260,365 คัน ลดลง 23.80 % ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนพฤษภาคม 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 49,871 คัน ลดลง 23.38 % ปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดขายรถในประเทศหดตัวลงนั้น เป็นเพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ด้านการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 429,969 คัน ลดลง 2.28 % โดยในเดือนพฤษภาคม 2567 ส่งออกได้ 89,284 คัน เพิ่มขึ้น 3.39 % สำหรับปัจจัยที่ทำให้ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. 67 เนื่องจากมีรถยนต์ที่ยังไม่ได้ส่งออกเดือนที่แล้วมาส่งออกเดือนนี้ จึงทำให้การส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย ตลาดออสเตรเลีย ตลาด ตะวันออกกลาง ตลาดอเมริกาเหนือ ตลาดอเมริกากลางและอเมริกาใต้ และสำหรับยอดจดทะเบียนยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) รวมทุกประเภท มกราคม -พฤษภาคม 2567 มีทั้งสิ้น 43,921 คัน เพิ่มขึ้น 31.64 % ขณะที่ยอดจดทะเบียนในเดือนพฤษภาคม 2567 มีทั้งสิ้น 8,166 คัน เพิ่มขึ้น 14.50% อย่างไรก็ตาม นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังปีนี้จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 และปี 2568 ที่่กำลังพิจารณาในสภาฯ แต่เศรษฐกิจจะขยายตัวถึง 3 % หรือไม่ ยังน่ากังวลอยู่
ที่มา: https://www.thansettakij.com/motor/motor/600147 วันที่ 12 กรกฎาคม 2567