จากรายงานของ New York Times ระบุว่าในช่วง 2–3 ปีที่ผ่านมา รถยนต์ไฟฟ้าจีนส่งออกมากขึ้นกว่า 851% ซึ่งทำให้แบรนด์อย่าง BYD สามารถสร้างยอดขายรถ xEV ได้แซงหน้า Tesla เป็นครั้งแรก แต่สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ
กำแพงภาษี โดยเฉพาะในอเมริกาซึ่งเป็นตลาดรถอันดับ 2 ของโลก จึงมีผลต่อการทำราคาตัวรถโดยตรง ล่าสุด BYD มุ่งเป้าไปที่โซนอเมริกาเหนืออย่างเม็กซิโก ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการรุกตลาดอเมริกามากขึ้นในอนาคต เหตุผลเพราะ เม็กซิโกอยู่ในข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอเมริกา, เม็กซิโกและแคนาดา (USMCA) จึงทำให้การนำเข้านั้นแทบจะปลอดภาษี จึงยิ่งกระตุ้นให้ผู้ผลิตจีน ไม่ว่าจะเป็น BYD, Chery หรือ MG ต่างสนใจที่จะตั้งโรงงานทางตอนใต้ชายแดนของอเมริกา-เม็กซิโก ปัจจุบันรถ EV ที่ผลิตในจีนจะต้องเสียภาษีนำเข้ากว่า 25% เช่น รถที่จีนมีราคา 690,000 บาท การส่งออกรถ EV ไปขายที่อเมริกา อาจจำเป็นต้องทำราคาตัวรถเพิ่มขึ้นไปอีกเกือบสองแสนบาท แต่หากผู้ผลิตจีนย้ายไปผลิตรถ EV ที่เม็กซิโกแล้วส่งออกไปยังอเมริกา อาจยังสามารถขายราคาเดิมที่ 690,000 บาทได้ เพราะภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกเหลือเพียง 2.5% และยังมีข้อตกลงที่ว่าผู้ผลิตรถสามารถนำรถเข้าแบบปลอดภาษีได้ หาก 3 ใน 4 ของอะไหล่ตัวรถผลิตในประเทศที่ส่งออกด้วย
ที่มา : https://news.trueid.net/detail/Yaqnmedb3jWk วันที่ 23 มกราคม 2567