ห่วงโซ่อุปทานที่เปราะบางจากความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ อาจส่งผลกระทบต่อแผนขยายการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (Electric vehicle: EV) และชะลอการใช้รถ EV
จากรายงานของ S&P Global Mobility เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2022 ยอดขายรถ EV ประเภทไฮบริดและแบตเตอรี่อาจจะตกเป้าเนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบ โดยคาดว่าความต้องการแบตเตอรี่ลิเทียม ไอออนจะอยู่ที่ประมาณ 3.4 เทราวัตต์ ชั่วโมง (Terawatt hours: TWh) ภายในปี ค.ศ. 2030 และด้วยราคาโลหะสำคัญในแบตเตอรี่ที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้น (Profit margin) ของผู้ผลิตชิ้นส่วนและผู้ผลิตรถยนต์ ทำให้ราคาชิ้นส่วนและราคารถยนต์สูงเพิ่มขึ้นตาม Graham Evans ผู้อำนวยการด้านห่วงโซ่อุปทานยานยนต์และเทคโนโลยีของ S&P Global Mobility กล่าวว่า “แร่ต่าง ๆ เช่น ลิเทียม นิกเกิล และโคบอลท์ ไม่ได้ปรากฎขึ้นมาและประกอบเข้าไปในแบตเตอรี่รถ EV และชิ้นส่วนอื่น ๆ ได้เอง” ดังนั้น ขั้นตอนระหว่างการขุดเจาะแร่และการประกอบในขั้นสุดท้ายยังเป็นปัญหาคอขวดที่ต้องแก้ไข แต่อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์รายงานว่า ผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำในโลกยังมีแผนลงทุนเกือบ 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ จนถึงปี ค.ศ. 2030 เพื่อพัฒนาและผลิตรถ EV หลายล้านคัน ควบคู่กับแบตเตอรี่และวัตถุดิบอีกด้วย
ที่มา : https://www.reuters.com/business/autos-transportation/ev-battery-production-faces-supply-chain-geopolitical-headwinds-report-2022-10-31/ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565